ขนมผิง ขนมไทยโบราณ หอมกรอบ ละลายในปาก

ขนมผิงเป็นขนมไทยโบราณที่ถูกคิดค้นขึ้น ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ขนมผิง ให้อร่อย เมื่อผสมหัวกะทิกับน้ำตาลทรายเข้ากันดีแล้ว พอนำไปตั้งไฟ จะต้องคอยคนสม่ำเสมอ จนกว่าหัวกะทิกับน้ำตาลทราย จะเข้ากันเป็นเนื้อเดียวและมีความข้นหนืดพอดี โดยวิธีสังเกต ให้ใช้ช้อนตักขึ้นมาแล้วหยดลง ถ้าน้ำกะทิหยดลงเป็นสายต่อเนื่องเป็นอันใช้ได้

อีกข้อหนึ่งที่สำคัญคือ เวลาใส่แป้งมันลงไป แล้วใช้มือนวด จะต้องคลุกเคล้าให้เข้ากัน จนกว่าทุกอย่างจะเป็นเนื้อเดียว ซึ่งจะต้องใช้เวลานาน หรือที่โบราณเขาเรียกว่า นวดจนตัวร้อน พอได้ที่แล้ว จึงพักแป้งไว้ แล้วหยิบมาปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ ทาน้ำมันมะพร้าวที่ถาดไว้ ไม่ให้แป้งติด แล้วนำเข้าเตาอบ อบให้สุก ก็จะได้ขนมผิงที่หอม กรอบอร่อย เคี้ยวกรุบ ละลายในปากแล้ว วิธีทำขนมผิง ด้วยตัวเองที่บ้าน ทำได้ง่าย ๆ เริ่มจาก นำหัวกะทิ ผสมกับน้ำตาลทราย คนให้ละลายเข้ากัน แล้วนำไปตั้งไฟ คอยคนสม่ำเสมอ จนกว่าหัวกะทิกับน้ำตาลทราย จะเข้ากันเป็นเนื้อเดียว และ มีความข้นหนืดพอดี จากนั้น ใส่กลิ่นนมแมว ไข่ไก่ คนให้เข้ากันดี ตามด้วย แป้งมัน แล้วใช้มือนวดให้แป้งเป็นเนื้อเดียวกัน เสร็จแล้ว หยิบแป้งปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ วางเรียงลงลงบนถาด นำไปเข้าเตาอบ เป็นอันเสร็จ ส่วนผสม แป้งมัน ไข่ไก่ หัวกะทิ น้ำตาลทราย กลิ่นนมแมว วิธีทำขนมผิง 1. เตรียมชามผสม ใส่หัวกะทิ น้ำตาลทราย คนให้ละลายเข้ากัน 2. ตั้งหม้อ เปิดไฟ วอร์มให้หม้อร้อนได้ที่แล้ว ลดเป็นไฟกลางค่อนไฟอ่อน เทน้ำกะทิผสมน้ำตาลทรายลงไป แล้วคนต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำกะทิพอข้นหนืด (ใช้ช้อนตักขึ้นมาแล้ว น้ำกะทิหยดลงเป็นสาย) พอหนืดได้ที่แล้ว เตรียมถาดน้ำเย็น ยกหม้อมาพักไว้ ให้น้ำกะทิเย็นตัวลง 3. ร่อนแป้งมันผ่านกระชอน เตรียมไว้ (เป็นเคล็ดลับ ทำให้แป้งมันมีความเบา ฟู ไม่ติดกันเป็นก้อน) 4. เติมกลิ่นนมแมวลงไปใน น้ำกะทิ คนให้ละลายเข้ากัน 5. ตอกไข่ไก่ 2 ฟอง ตีให้เข้ากัน แล้วเทลงไปในน้ำกะทิ คนให้ละลายเข้ากัน 6. ใส่แป้งมันลงไป แล้วใช้มือค่อย ๆ นวด ให้ทุกอย่างเข้ากัน จนเป็นเนื้อเดียว เสร็จแล้ว พักทิ้งไว้

Scroll to Top