ขนมผิง กรอบหอมอร่อย ละลายในปาก เคี้ยวเพลิน

ขนมผิงในสมัยก่อนจะมีรสหวาน กลิ่นหอมที่ยั่วยวนใจ สีน้ำตาลและเมื่อรับประทานจะละลายในปากทันที ซึ่งต่างกับในสมัยปัจจุบันที่ทำสีสันเพิ่มเติม อาทิ สีชมพู สีเขียว และสีเหลือง นอกจากนั้นเนื้อแป้งยังแข็งขึ้นกว่าแต่ก่อน ทั้งนี้ก็เพราะว่าป้องกันไม่ให้ขนมผิงที่บรรจุห่อขายนั้นแตกหักได้ง่าย แต่เดิมนั้นขนมผิงจะถูกบรรจุอยู่ในโหลแก้วเล็ก ๆ และประดับด้วยโบว์ เพื่อใช้เป็นของขวัญ

ส่วนประกอบ แป้งมัน 6 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง หัวกะทิ 1 1/2 ถ้วยตวง ไข่ไก่ (เฉพาะไข่แดง) 2 ฟอง เทียนอบ
ขั้นตอนการทำ
เคี่ยวกะทิบนไฟอ่อน เติมน้ำตาล เคี่ยวจนเดือดไม่แตกมัน
ใส่แป้งลงในกะทิ เริ่มทีละช้อน ค่อยกวนจนแป้งสุก จับเป็นก้อน รอเย็นยกลง นำมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ วางไว้บนถาดทาน้ำมันบางๆ ทิ้งไว้ 1 คืนจนแห้ง
หลังจากทิ้งแป้งไว้ให้ขึ้นตัว นำไปอบด้วยเตาอบประมาณ 15 นาที หรืออบจนส่วนล่างของแป้งเหลือง จึงเอาออกมาแซะออก และนำไปอบควันเทียนเพื่อป้องกันแมลง เป็นการถนอมอาหาร
จัดขนมใส่จานเสริฟ หรือใส่โหล, ภาชนะมิดชิดเก็บไว้ทานภายหลัง

เคล็ดลับทำ ขนมผิง ให้อร่อย เมื่อผสมหัวกะทิกับน้ำตาลทรายเข้ากันดีแล้ว พอนำไปตั้งไฟ จะต้องคอยคนสม่ำเสมอ จนกว่าหัวกะทิกับน้ำตาลทราย จะเข้ากันเป็นเนื้อเดียว และ มีความข้นหนืดพอดี โดยวิธีสังเกต ให้ใช้ช้อนตักขึ้นมาแล้วหยดลง ถ้าน้ำกะทิหยดลงเป็นสายต่อเนื่อง เป็นอันใช้ได้ อีกข้อหนึ่งที่สำคัญคือ เวลาใส่แป้งมันลงไป แล้วใช้มือนวด จะต้องคลุกเคล้าให้เข้ากัน จนกว่าทุกอย่างจะเป็นเนื้อเดียว ซึ่งจะต้องใช้เวลานาน หรือที่โบราณเขาเรียกว่า นวดจนตัวร้อน พอได้ที่แล้ว จึงพักแป้งไว้ แล้วหยิบมาปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ ทาน้ำมันมะพร้าวที่ถาดไว้ ไม่ให้แป้งติด แล้วนำเข้าเตาอบ อบให้สุก ก็จะได้ขนมผิงที่หอม กรอบอร่อย เคี้ยวกรุบ ละลายในปากแล้ว

Scroll to Top